ถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคในการหาซื้อ ทั้งฟิล์ม กระดาษอัด-ขยาย อีกทั้งน้ำยาต่างๆ นับวันก็ยิ่งจะหายากขึ้นทุกที แต่ผมกลับรู้สึกว่าการถ่ายภาพขาวดำได้กลับเป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพอีกครั้ง ทั้งๆที่เมื่อครั้งหนึ่ง เมื่อนานมาแล้วที่ภาพสีได้เข้ามามีบทบาทอย่างสูงในวงการถ่ายภาพ และก็ได้ทำให้ภาพขาวดำได้หาย ตายจากไปจากความนิยมของคนไทยและคนทั่วโลกไปพักใหญ่ ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากความรู้สึกของผู้ชมที่ได้นำความไร้สีของภาพขาวดำไปเปรียบเทียบกับภาพสี ซึ่งภาพได้ให้สีที่สดใสได้เหมือนของจริง จึงทำให้ภาพขาวดำดูทึม ขาดชีวิต ชีวาไปมาก
จากที่ได้สังเกตุ webs ต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศ ก็เห็นได้ว่าการถ่ายภาพขาวดำได้กลับมามีบทบาทที่น่าสนใจขึ้นอีกครั้ง รวมถึงการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์ม แทนการใช้กล้องดิจิตัล จะพูดว่าเป็นการสวนกระแสของความนิยม ก็พอจะว่าได้ ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่าผู้บริโภครุ่นใหม่ๆได้มองเห็น เข้าใจ และให้ความสนใจกับความงามที่ไร้สีมากขึ้น มองเห็นสเน่ห์ของความงามที่เรียบง่าย ซึ่งภาพสีไม่สามารถที่จะให้ได้ แม้กระทั่งผู้ผลิตกล้องถ่ายภาพดิจิตัลเองก็ให้ความสนใจมากขึ้น มากถึงกับได้เพิ่ม function ของการปรับกล้องให้สามารถถ่ายภาพขาวดำโดยตรงได้อีกด้วย โดยที่ไม่ต้องรอไปใช้โปรแกรมปรับภาพให้เป็นขาวดำบนคอมพิวเตอร์อีกต่อไป และผู้ที่ใช้กล้องดิจิตัลก็ไม่ต้องห่วงในเรื่องของฟิล์มขาดตลาด กระดาษขาดตลาด หรือหาน้ำยาไม่ได้ นอกเหนือไปจากนั้นผู้ผลิตกระดาษที่จะใช้พิมพ์ภาพ และผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ประเภท inkjet ก็ได้ปรับปรุงผลิตภัณท์ของตนให้ออกมาให้ดีที่สุด ให้สามารถพิมพ์ภาพขาวดำออกมาให้ได้ละเอียดที่สุด ให้ได้โทนต่อเนื่องที่ดี และให้มีความคงทนถาวรเป็นอย่างดีอีกต่างหาก
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีผู้นิยมการถ่ายภาพขาวดำมากขึ้น หรือมีการแปลงภาพสีให้เป็นภาพขาวดำมากขึ้น แต่เท่าที่สังเกตุเห็นภาพที่ออกแสดง และที่ได้เห็นส่งขึ้นไปตาม webs ต่างๆ แม้กระทั่งจาก web ของชมรมภาพถ่ายขาวดำฯนี้เองก็ตาม ผมรู้สึกว่าผู้ถ่ายภาพขาวดำ ผู้ที่แปลงภาพสีให้เป็นภาพขาวดำส่วนใหญ่ยังขาดความเข้าใจในเรื่องของขาวดำ เรื่องความต่อเนื่องของโทน และความต่างของโทนสีเทาอยู่มาก และก็ยังไม่เข้าใจถึงหลักของการถ่ายภาพขาวดำ ดีเท่าไรนัก ผมมีความรู้สึกว่าภาพที่ส่งขึ้นมาให้ดูบน web นั้น ดูเหมือนกับว่าผู้ถ่ายได้พยายามถ่ายให้ได้ภาพดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเลือก subject การเลือกแสง หรือการเลือกสี แต่ว่าเป็นการถ่ายมาตามที่เห็นว่าสวย ว่าดี ในลักษณะของการถ่ายภาพด้วยฟิล์มสี หรือว่าจากโหมดสีของกล้อง ซึ่งผู้ถ่ายย่อมจะเห็นว่าเป็นภาพที่มีสีที่สวย และก็สวยจริงเมื่อเป็นภาพสี แต่เมื่อได้รับการ convert หรือแปลงให้เป็นภาพขาวดำแล้วกลับมิได้มีความสวยงามเหลือ หรือมีความน่าสนใจเหลืออยู่เท่าไรนัก
ในฐานะที่เป็นคนหนึ่งที่เข้าใจการถ่ายภาพขาวดำดีพอ ผมจึงอยากจะอธิบายอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการถ่ายภาพขาวดำให้รู้ไว้ตรงนี้ว่า การถ่ายภาพขาวดำกับการถ่ายภาพสีนั้น มันต่างกันอย่างไร และเราจะต้องรู้จักมองให้ต่างกัน เมื่อเวลาเราถ่ายภาพสี สีของสิ่งของต่างๆก็จะเป็นตัวกำหนดที่สำคัญพอๆกับ subject ถึงแม้จะมีสีซ้อนกันก็ไม่เป็น อาจจะดีอีกด้วยในหลายๆกรณี แต่เมื่อเราจะถ่ายภาพถ่ายภาพขาวดำ หลักการที่ใช้อยู่นั้น ใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว สีจะกลายเป็นตัวลดคุณภาพของภาพขาวดำลงไปได้มาก หากไม่ระวัง สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงให้มากในยามนี้คือ แสงและเงา โทนของสี (ซึ่งจะออกมาเป็นโทนของสีเทา) รูปร่าง ลักษณะ และพื้นผิวของ subject
บางครั้งภาพโดยรวมที่เรามองเห็น ไม่ว่าจะเป็นภาพวิว ภาพตึกรามบ้านช่อง ภาพบุคคล ภาพดอกไม้ จะดูสวยในความเป็นจริง และเหมาะกับการถ่ายภาพสีเป็นที่สุด แต่ก็อาจจะเป็นอะไรที่สวยเมื่อถ่ายออกมาเป็นภาพขาวดำ หรือว่าเมื่อได้ convert ออกมาเป็นภาพขาวดำได้เช่นกัน เพราะว่ามันมีโทนสีเทาที่ดูไล่กันดี ดูเรียบง่าย หรือว่ามีแสงที่ดี มีโครงสร้างของ subject ที่น่าสนใจ หรือภาพเป็นบุคคลที่ไม่มีอะไรมาทำให้ดูยุ่งเหยิงทั้งในส่วนที่เป็นฉากหน้าและฉากหลัง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเกิดขึ้นได้บ่อยนัก
ในการที่จะถ่ายภาพขาวดำที่เป็นภาพวิว ขอให้มอง ให้สังเกตุดูให้ดี อย่าให้มีโทนของสีเขียวที่ใกล้เคียงกันให้มากนัก มันอาจจะเป็นปื้นสีเทาที่แยกไม่ออก และอย่าพยายามใส่สีในภาพให้มากนักเพราะสีบางสีแม้จะต่างสีกันแต่เมื่อเป็นโทนสีเทาแล้วก็อาจจะเป็นโทนเดียวกันได้ และก็ไม่ควรที่จะใส่อะไรที่จะดูวุ่นวายใส่เข้าไปในภาพ เพราะมันจะสร้างความสับสนให้กับภาพมากกว่าอื่น หากว่าภาพมีสิ่งที่รบกวนสายตาน้อย subject ของภาพก็จะยิ่งดูดี เมื่อจะถ่ายภาพบุคคล ก็ควรจะเลือกให้ใช้เสื้อผ้าที่ดูเรียบง่าย และให้มีสีเรียบๆ ไม่เป็นลายหรือดอก ในการถ่ายภาพ still life หรือภาพดอกไม้ก็เช่นกัน วิธีการจัดภาพ การให้แสง และการเลือก subject จะสำคัญมากกว่าปริมาณสิ่งของ ที่จะใส่ไปในภาพ ความรู้ในเรื่องของการจัดองค์ประกอบ การใช้ composition และ space การมีมุมมองที่คม รู้จักการใช้แสงและเงา ที่สำคัญอีกอย่างก็คือ perspective ซึ่งจะช่วยทำให้ภาพดูน่าสนใจ เพราะว่ามันจะช่วยสร้างความลึก สร้างมิติให้กับภาพ
และด้วยความที่ไม่มีสี สิ่งต่างๆที่จะได้มาในภาพอาจจะดูเป็นสีเทาทึมๆไปหมด หากเราไม่ระวังในการเลือกสิ่งที่จะถ่าย … subject ที่เลือกไว้อาจจะดูดีก่อนถ่าย แต่ก็อาจจะถูกกลืนเข้าไปกับฉากหน้าและฉากหลังได้ ดังนั้นจึงควรที่จะหามุมที่จะทำให้ subject ดูเด่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่นด้วยการหามุมที่ดูไม่รก หรือทับกับสิ่งอื่น นอกจากนั้นแล้วพื้นผิวของ subject ก็มีส่วนสำคัญในภาพขาวดำเป็นอย่างมากเช่นกัน
สีต่างๆที่ฟิล์มเห็นและบันทึกมา มีความสำคัญมากในการถ่ายภาพขาวดำ เพราะอย่างที่ได้กล่าวไว้แล้วว่าแต่ละสีจะให้ความต่างของโทนสีเทาที่จะได้รับในภาพขาวดำ บางสีที่แม้จะเป็นสีที่ต่างกัน แต่ก็จะให้โทนสีเทาเดียวกันกับอีกสีหนึ่งได้ อย่างเช่นสีเขียวและสีแดง ซึ่งจะให้สีที่ดูเด่นและตัดกันสวยในความเป็นจริงและในภาพสี แต่กลับจะดูทึมๆเมื่ออยู่ด้วยกันในภาพขาวดำ เนื่องจากทั้งสองสีมีโทนสีเทาที่ใกล้เคียงกัน … ภาพขาวดำจะดูน่าสนใจมากขึ้นเมื่อความต่อเนื่องของโทนมีความต่างให้เห็นได้ชัดเจนในภาพ …สิ่งที่จะช่วยสร้างความต่าง (contrast) ให้แก่ภาพ ในการถ่ายภาพขาวดำได้ ก็คือแผ่นกรองแสงที่มีมาในสีต่างๆ เช่น สีแดง สีส้ม สีเหลือง สีเขียว ที่ต่างความเข้มกัน แต่ละสีจะทำงานต่างกัน เราเรียกแผ่นกนองแสงนี้ว่า contrast filters …จะให้บอกว่าควรจะใช้สีอะไรในการถ่ายอะไร ก็คงจะไม่ชัดเจนเท่ากับการหามาใช้และนำไปลองถ่ายดู
ความจริง…หลายๆอย่างที่บอกมาข้างบน ก็มีอยู่ใน Articles ที่ได้เคยเขียนมาแล้ว แต่นำมาสรุปให้อ่านกันตรงนี้ก็เพราะคิดว่าหลายคนคงไม่ได้เข้าไปอ่านกัน หรือว่าหากันไม่เจอ…ขอให้ลองทำตามดูนะครับ รับรองว่าจะให้ผลแน่
หาก staff ผู้ใด หรือว่ามีผู้สันทัดในกรณีผู้ใด ที่สนใจมีอะไรที่อยากจะเพิ่มเติมให้ความรู้ ช่วยเพิ่มเข้าไปด้วยครับ หรือไม่เห็นด้วยกับสิ่งใดที่ได้เขียนมา จะคัดค้านอะไร ก็ช่วยทำด้วย จะได้ชัดเจนขึ้น หรือว่ามีอะไรที่จะแนะนำ กรุณาช่วยทำด้วย จักขอบคุณเป็นที่ยิ่ง